จริยธรรมในการใช้อินเทอร์เน็ต
1 . ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้ายหรือละเมิดผู้อื่น
2. ต้องไม่รบกวนการทำงานของผู้อื่น
3. ต้องไม่สอดแนม แก้ไข หรือเปิดดูแฟ้มข้อมูลของผู้อื่น
4. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร
5. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ
6. ต้องมีจรรยาบรรณการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์
7. ให้ระมัดระวังในการละเมิดหรือสร้างความเสียหายให้ผู้อื่น
8. ให้แหล่งที่มาของข้อความ ควรอ้างอิงแหล่งข่าวได้
9. ไม่กระทำการรบกวนผู้อื่นด้วยการโฆษณาเกินความจำเป็น
10.ดูแลและแก้ไขหากตกเป็นเหยื่อจากโปรแกรมอันไม่พึงประสงค์เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นเป็นเหยื่อ
ข่าวสารที่ทำผิดจริยธรรมในอินเทอร์เน็ต
หัวข้อข่าว
หัวข้อคุก21ปีแฮกเกอร์ข้อมูลลับเอทีเอ็มลูกค้าใบโพธิ์ข่าว
เนื้อหาข่าว
นายภาณุพัฒน์ เพ็ญพัฒน์ ฤกษ์เสริมสุข อายุ 30 ปี ชาว จ.นครนายก เป็นจำเลยในความผิดฐานเข้าระบบและข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกัน ทำลายแก้ไข เปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม ทำให้เกิดความเสียหาย ,ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ,ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยจำเลยบังอาจใช้ข้อมูลหมายเลข 16 หลัก ที่ปรากฏบนหน้าบัตร เอทีเอ็ม พร้อมรหัสลับที่ใช้ถอนเงินของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) ผู้เสียหายที่ออกให้แก่ลูกค้าซึ่งเป็นผู้เสียหายอีก 4 ราย แล้วจำเลยนำไปสมัครขอใช้บริการ SCB EASY NET โดยกำหนดชื่อประจำตัว และรหัสผ่านด้วยตนเองตามขั้นตอนและวิธีการที่ ธนาคารฯ กำหนด เป็นเหตุให้ธนาคารฯหลงเชื่อว่าจำเลยเป็นผู้เสียหาย4 ราย จึงออกชื่อประจำตัวผู้ใช้ให้ จากนั้นจำเลยได้นำชื่อประจำตัวของผู้เสียหาย และรหัสผ่านไปโอนเงินจากบัญชีผู้เสียหายเพื่อใช้ชำระค่าสินค้า หรือบริการทางอินเตอร์เน็ตหลายครั้งซึ่งเป็นร้านค้าต่างประเทศรวม 4 ครั้ง เป็นเงิน 368,800 บาท ต่อมาตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรรมทาง เทคโนโลยี (ปอท.)ติดตามจับกุมได้ พร้อมให้การรับสารภาพ เหตุเกิดที่แขวงเขต- จตุจักร กรุงเทพฯ และที่อื่นเกี่ยวพันกัน
กระทำผิดมาตรตรา
กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 269/5 ประกอบมาตรา269/7 ,334,335 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 5,7,9
กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 269/5 ประกอบมาตรา269/7 ,334,335 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 5,7,9
บทลงโทษในการกระทำผิด
ศาลตัดสินบทลงโทษฐานใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ 5 กระทง จำคุกกระทงละ 9 เดือน เป็นจำคุก 3 ปี 9 เดือน ฐานเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกัน ทำลายแก้ไข เปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม ทำให้เกิดความเสียหายฯ 4 กระทง จำคุกกระทงละ 2 ปี เป็นจำคุก 8 ปี และฐานลักทรัพย์ฯ จำคุกกระทงละ 2 ปี 5 กระทง เป็นจำคุก 10 ปี รวมจำคุก 21 ปี 9 เดือน คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลย 10 ปี 10 เดือน 15 วัน และให้จำเลยชดใช้เงินคืน 368,800 บาทแก่ผู้เสียหายด้วย.
วิเคราะห์ข่าว
โดยส่วนตัวหลังจากที่ได้อ่านข่าวนี้นั้นฉันคิดว่าเป็นสิ่งที่มีความผิดร้ายแรงทั้งในด้านกฎหมายและหลักจริยธรรมเป็นอันมาก เพราะคนร้ายนั้นทำผิดในด้านกฎหมายอย่างเห็นได้ชัดตามข่าว แต่ส่วนในเรื่องของหลักจริยธรรมแล้วคนร้ายมีความผิดเนื่องจากใช้เทคโนโลยีที่ซึ่งเป็นสิ่งอำนวยควาสะดวกสบายเข้าไปก่อกวนระบบเป็นเหตุให้มีผู้เสียหายดังข่าวผู้เสียหายได้สูญเสียทรัพย์อีกทั้งยังทำให้ผู้เสียหายต้องเสียสุขภาพทางจิตเนื่องจากว่าไม่รู้ว่ายังมีคนที่เป็นแฮคเกอร์แบบนี้อยู่ในสังคมอยู่อีกกี่ราย
หัวข้อข่าว
เเพทยสภาจ่อเอาผิดจริยธรรมหมอทำคนไข้เสียชีวิต
เนื้อหาข่าว
วันที่ 3 พ.ค. พญ.ชัญวลี ศรีสุโข โฆษกแพทยสภา กล่าวถึงกรณีญาติผู้เสียชีวิตเข้าร้องเรียน หลังพบว่ามีแพทย์รายหนึ่งได้เปิดคลินิกศัลยกรรมตกแต่งที่ จ.สมุทรปราการ และได้ผ่าตัดพริตตี้จนทำให้เสียชีวิต ก่อนจะมีการปิดคลินิก และได้มาเปิดคลินิกใหม่ย่านพระราม 9 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตซ้ำอีกจากการผ่าตัดวีไลน์ ว่า กรณีดังกล่าว คนไข้ที่เสียชีวิตรายแรกเกิดขึ้นประมาณ 2 ปี ก็ได้มีการแจ้งเรื่องเข้ามา และทางแพทยสภาได้ลงไปตรวจสอบและติดตามตัวหมอรายนี้ แต่ไม่พบในฐานข้อมูล และตัว นพ.เองก็ไม่ให้ความร่วมมือ จึงไม่สามารถติดตามตัวได้เลย จนกระทั่งเมื่อเดือน ก.ย.59 ได้มีการร้องเรียนจากญาติผู้เสียชีวิตในรายที่ 2 ประกอบกับทาง สน.ห้วยขวางได้ส่งสำนวนคดีเพื่อให้ทางแพทยสภาลงไปตรวจสอบ จึงพบว่าคนไข้ทั้งสองรายมาจากแพทย์คนเดียวกัน แต่มีการเปลี่ยนชื่อและนามสกุลใหม่ ซึ่งในกรณีที่ 2 หลังจากได้รับข้อมูลจากทางญาติผู้เสียชีวิต เพทยสภาก็ได้มีการเรียกตัวแพทย์ดังกล่าวมารับทราบและชี้แจงข้อหา แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือดังเดิมพญ.ชัญวลีกล่าวอีกว่า คาดว่าแพทยสภาจะมีการตรวจสอบเรื่องจริยธรรมแพทย์รายดังกล่าว กรณีแรกจะตรวจสอบในเรื่องมาตรฐานการระงับความรู้สึก เนื่องจากแพทย์รายนี้เป็นผู้ให้ยาสลบคนไข้เองโดยไม่มีวิสัญญีแพทย์ ส่วนคนไข้รายที่ 2 จะตรวจสอบในเรื่องมาตรฐานการผ่าตัด ซึ่งไปโดนเส้นเลือดดำจนทำให้คนไข้ถึงแก่ชีวิต ทั้งนี้ การตรวจสอบจริยธรรมสามารถทำได้เลยโดยไม่ต้องรอข้อสรุปทางกฎหมาย โดยโทษสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพก็จะมีตั้งแต่ ตักเตือน ภาคทัณฑ์ ไปจนถึงยึดใบใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะเลย และเมื่อได้ข้อสรุปทางกฎหมายก็อาจจะมีการเพิ่มโทษในภายหลังได้
"ทั้งนี้ ความสวยเป็นเรื่องที่ทุกคนปรารถนา แต่ที่ผ่านมาทุกปีก็พบว่ามีหลายเคสที่เกิดอาการแทรก ซ้อนตั้งแต่เล็กน้อย เช่น แผลติดเชื้อ ไม่เป็นเหมือนที่คิดเอาไว้ จนถึงขั้นเสียชีวิต ดังนั้นต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และเงินที่เสียไปด้วยว่ามีความคุ้มค่าหรือไม่ เพราะหากผิดพลาดไปก็ทำให้ต้องเสียเงินในการแก้ไข และเสี่ยงต่อชีวิตด้วย" พญ.ชัญวลีกล่าว.
อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/tpd/2642193
"ทั้งนี้ ความสวยเป็นเรื่องที่ทุกคนปรารถนา แต่ที่ผ่านมาทุกปีก็พบว่ามีหลายเคสที่เกิดอาการแทรก ซ้อนตั้งแต่เล็กน้อย เช่น แผลติดเชื้อ ไม่เป็นเหมือนที่คิดเอาไว้ จนถึงขั้นเสียชีวิต ดังนั้นต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และเงินที่เสียไปด้วยว่ามีความคุ้มค่าหรือไม่ เพราะหากผิดพลาดไปก็ทำให้ต้องเสียเงินในการแก้ไข และเสี่ยงต่อชีวิตด้วย" พญ.ชัญวลีกล่าว.
อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/tpd/2642193